Access Switch (สวิตช์ระดับการเข้าถึง) – การเชื่อมต่อและการรักษาความปลอดภัย
Access Switch หรือ สวิตช์ระดับการเข้าถึง จะทำหน้าที่ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ปลายทาง เช่น คอมพิวเตอร์, เครื่องพิมพ์, และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในแต่ละแผนกหรือแต่ละพื้นที่ทำงานภายในโรงพยาบาล
ตัวอย่างเหตุการณ์:
หากมีเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาลเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ไม่รู้จักกับ Access Switch ที่ยังไม่ได้รับการรับรอง, การมีการตั้งค่า Port Security ที่ถูกต้องจะป้องกันการเข้าถึงนี้ ซึ่งสามารถป้องกันภัยคุกคามจากอุปกรณ์ไม่รู้จักที่อาจเป็นแหล่งของมัลแวร์หรือภัยคุกคามอื่นๆ
ผลกระทบต่อ Data Center:
Access Switch ทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ปลายทางและสวิตช์ระดับบริการหรือ Distribution Switch. การรักษาความปลอดภัยที่จุดนี้จึงสำคัญเพราะว่ามันเป็นประตูเข้าสู่ข้อมูลทั้งหมดใน Data Center. การป้องกันการเข้าถึงไม่พึงประสงค์ที่จุดนี้จะป้องกันการเข้าถึงข้อมูลและแอปพลิเคชั่นที่สำคัญภายใน Data Center
ดังนั้นเรามาดูเรื่องการ Set ระบบ อุปกรณ์ และการตั้งค่าต่าง ๆ ดังต่อไปนี้:
-
การตั้งค่าและเชื่อมต่อ:
เวลาที่คุณตั้งค่า Access Switch, ควรทำการกำหนด VLAN (Virtual Local Area Network) เพื่อแบ่งกลุ่มและการเข้าถึงข้อมูลภายในโรงพยาบาล เช่น แผนกอายุรกรรมอาจมี VLAN เฉพาะของตนเอง
การตั้งค่าและเชื่อมต่อ Access Switch สำหรับโรงพยาบาล
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบอุปกรณ์
-
- ตรวจสอบว่า Access Switch และสายเคเบิลที่ใช้ต่อเข้ากับอุปกรณ์อื่นๆ พร้อมที่จะใช้งาน
- ตรวจสอบไฟที่แสดงสถานะบน Access Switch เพื่อยืนยันว่าเครื่องทำงานปกติ
ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่าการเชื่อมต่อพื้นฐาน
-
- เชื่อมต่อสายเคเบิลเข้ากับพอร์ตที่ต้องการใน Access Switch
- เข้าถึงระบบการจัดการของ Access Switch ผ่านทาง web interface หรือ command-line interface (CLI)
ขั้นตอนที่ 3: การกำหนดค่า VLAN
-
- เข้าเมนูของ VLAN ในระบบการจัดการ
- กดปุ่ม “สร้าง VLAN ใหม่” หรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง
- ระบุรหัส VLAN และชื่อของ VLAN ที่ต้องการ (เช่น VLAN10, แผนกอายุรกรรม)
- กำหนดพอร์ตที่ต้องการให้อยู่ใน VLAN นั้น
- บันทึกการตั้งค่า
ขั้นตอนที่ 4: การกำหนดค่าการเข้าถึง
-
- กำหนดระดับการเข้าถึงสำหรับแต่ละ VLAN เพื่อให้ผู้ใช้เฉพาะกลุ่มสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้
- ตั้งค่าการจำกัดการเข้าถึงโดยอ้างอิงตามที่อยู่ IP หรือ MAC address
ขั้นตอนที่ 5: การทดสอบ
-
- ทดสอบการเชื่อมต่อด้วยอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อกับ Access Switch เช่น คอมพิวเตอร์
- ยืนยันว่าการเข้าถึงข้อมูลถูกต้องตามที่กำหนดไว้ใน VLAN
ขั้นตอนที่ 6: การบันทึกและตรวจสอบ
-
- บันทึกการตั้งค่าทั้งหมดลงในเอกสารอ้างอิง
- จัดทำรายงานการตั้งค่าเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบในอนาคต
สรุป: การตั้งค่า Access Switch และการกำหนดค่า VLAN เป็นส่วนสำคัญในการจัดการเครือข่ายภายในโรงพยาบาล การทำตามคู่มือนี้จะช่วยให้คุณสามารถตั้
-
ความปลอดภัย:
– การใช้ Port Security เพื่อจำกัดอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับสวิตช์
– การปิดการใช้งานพอร์ตที่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเชื่อมต่อไม่ได้รับอนุญาต
การตั้งค่าความปลอดภัยสำหรับ Access Switch
ในสภาพแวดล้อมของโรงพยาบาลที่มีการใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างแพร่หลาย, Access Switch เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ปลายทางต่าง ๆ รวมถึงคอมพิวเตอร์, เครื่องพิมพ์, และอุปกรณ์อื่น ๆ ภายในแผนกต่าง ๆ ของโรงพยาบาล เพื่อให้การเชื่อมต่อนั้นปลอดภัย การตั้งค่าความปลอดภัยของ Access Switch จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ด้านล่างนี้คือคู่มือการตั้งค่าความปลอดภัยสำหรับ Access Switch เพื่อใช้งานภายในโรงพยาบาล:
- การตั้งค่า Port Security:
Port Security ช่วยในการจำกัดอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับสวิตช์ผ่านพอร์ตที่กำหนดไว้
ขั้นตอนการตั้งค่า:
-
- เข้าสู่โหมดการกำหนดค่าของสวิตช์
# configure terminal
-
- เลือกพอร์ตที่คุณต้องการตั้งค่า Port Security
# interface [ชื่อพอร์ต เช่น FastEthernet 0/1]
-
- เปิดใช้งาน Port Security
# switchport port-security
-
- กำหนดจำนวนสูงสุดของ MAC Address ที่อนุญาตให้เชื่อมต่อผ่านพอร์ตนี้
# switchport port-security maximum [จำนวน]
-
- บันทึกการตั้งค่า
# end
-
- การปิดการใช้งานพอร์ตที่ไม่ได้ใช้งาน:
การปิดการใช้งานพอร์ตที่ไม่ได้ใช้งานสามารถป้องกันการเชื่อมต่อที่ไม่ได้รับอนุญาต
ขั้นตอนการปิดการใช้งาน:
-
- เข้าสู่โหมดการกำหนดค่าของสวิตช์
# configure terminal
-
- เลือกพอร์ตที่คุณต้องการปิดการใช้งาน
# interface [ชื่อพอร์ต เช่น FastEthernet 0/2]
-
- ปิดการใช้งานพอร์ต
# shutdown
-
- บันทึกการตั้งค่า
# end
หมายเหตุ: ในการตั้งค่าสวิตช์ต่างๆ ควรทำการสำรองข้อมูลการกำหนดค่าและตรวจสอบความถูกต้องก่อนทำการบันทึก เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการตั้งค่าที่ไม่ถูกต้อง
เมื่อทำการตั้งค่าความปลอดภัยสำหรับ Access Switch เสร็จสิ้น ควรทำการตรวจสอบระบบการทำงานของอุปกรณ์เพื่อแน่ใจว่ามันทำงานได้ถูกต้องและปลอดภัย
-
รับรองการเชื่อมต่อ:
ใช้ IEEE 802.1X ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับ Network Access Control ที่จะตรวจสอบความถูกต้องของอุปกรณ์หรือผู้ใช้ก่อนที่จะอนุญาตให้เข้าถึงเครือข่าย
การตั้งค่าการรับรองการเชื่อมต่อโดยใช้ IEEE 802.1X:
-
- ภาพรวม:
IEEE 802.1X เป็นมาตรฐานสำหรับ Network Access Control (NAC) ที่ใช้ในการตรวจสอบและรับรองความถูกต้องของอุปกรณ์และผู้ใช้ก่อนอนุญาตให้เข้าถึงเครือข่าย
-
- อุปกรณ์ที่ต้องการ:
– Access Switch ที่รองรับ IEEE 802.1X
– RADIUS Server สำหรับการตรวจสอบและรับรองความถูกต้อง
– อุปกรณ์ปลายทางที่รองรับ IEEE 802.1X (เช่น คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ)
-
- ขั้นตอนการตั้งค่า:
ขั้นตอนที่ 1: การตั้งค่า RADIUS Server
– ติดตั้งและปรับปรุง RADIUS Server.
– กำหนด User accounts และ Passwords สำหรับผู้ใช้ที่จะเข้าถึงเครือข่าย.
– กำหนดค่า Shared Secret ที่จะใช้ระหว่าง RADIUS Server และ Access Switch
ขั้นตอนที่ 2: การตั้งค่า Access Switch
– เปิดการใช้งาน IEEE 802.1X บนสวิตช์
– กำหนด IP Address ของ RADIUS Server และ Shared Secret ที่ได้ตั้งค่าในขั้นตอน
ก่อนหน้า
– กำหนดพอร์ตที่ต้องการใช้งาน IEEE 802.1X
ขั้นตอนที่ 3: การตั้งค่าอุปกรณ์ปลายทาง
– เปิดการใช้งาน IEEE 802.1X บนอุปกรณ์
– ป้อนข้อมูล User และ Password ที่กำหนดไว้ใน RADIUS Server เมื่อเข้าถึงเครือข่าย
-
- การทดสอบ:
– พยายามเชื่อมต่ออุปกรณ์ปลายทางกับสวิตช์
– ระบบจะขอข้อมูล User และ Password
– หากการรับรองผ่าน, อุปกรณ์จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงเครือข่าย
-
- คำแนะนำเพิ่มเติม:
– ควรมีการสำรองข้อมูลของ RADIUS Server อย่างสม่ำเสมอ
– ตรวจสอบการปรับปรุงและ patches ของซอฟต์แวร์เพื่อรักษาความปลอดภัย
ข้อควรระวัง: การรับรองความถูกต้องผ่าน IEEE 802.1X เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย แนะนำให้ควบคู่ไปกับมาตรการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ เช่น VLANs, Firewalls, และ Intrusion Detection Systems