การแบ่งเครือข่าย Network ในโรงพยาบาลตามแผนกต่าง ๆ.png
กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่,  เนื้อหาสำหรับกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ,  โรงพยาบาล

การแบ่ง Clinical Network ในโรงพยาบาล (Part 1)

 

การสร้างระบบ IT Clinical Network ภายในโรงพยาบาลเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะมันเป็นสิ่งที่สามารถช่วยให้การดูแลสุขภาพของผู้ป่วยมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ระบบนี้ช่วยให้สามารถรวบรวมข้อมูลทางการแพทย์ได้เป็นอย่างดี และสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้อง รวมถึงสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆ ที่จะช่วยประสิทธิภาพการทำงานของทีมแพทย์และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วยได้อีกด้วย การสร้างระบบ IT Clinical Netwrk ภายในโรงพยาบาลเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วยและทีมแพทย์ที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลนั้นๆ

 

แผนการสร้างเครือข่ายคลินิก (Clinical Network Part 1):

 

  • แผนการสร้างเครือข่ายคลินิกควรมุ่งเน้นความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากข้อมูลทางการแพทย์จะถูกเก็บไว้ในส่วนนี้
  • ใช้เป็นเครือข่ายสาย (Wired Network) เพื่อความเสถียรและความเร็วในการรับส่งข้อมูล
  • ใช้เทคโนโลยีเสริมความปลอดภัย เช่น Firewall, Intrusion Detection System (IDS), และ Intrusion Prevention System (IPS) เพื่อป้องกันการแอบอ้างถึงข้อมูลแพทย์
  • จัดการการเข้าถึงเครือข่ายด้วยระบบรหัสผ่านและการตรวจสอบตัวตน (Authentication)

 

ขั้นตอนการวางผัง Network ของคลินิกต่าง ๆ ในโรงพยาบาล:

 

ขั้นตอนที่ 1: การวางแผนเครือข่ายคลินิก

ในขั้นตอนแรกนี้คุณจะวางแผนเครือข่ายคลินิกในโรงพยาบาล โดยใช้แผนผังเครือข่าย (Network Diagram) และคำนึงถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ดังนี้:

  • ประเภทของข้อมูลที่จะถูกเก็บและส่งผ่านเครือข่าย: ระบุประเภทของข้อมูลทางการแพทย์ที่จะถูกเก็บและส่งผ่านเครือข่าย เช่น ประวัติการรักษาของผู้ป่วย, ภาพอาการ X-ray, ข้อมูลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ฯลฯ

แบ่งประเภทของข้อมูลทางการแพทย์ที่อาจถูกเก็บและส่งผ่านเครือข่ายคลินิกในโรงพยาบาลได้ดังนี้:

  1. ข้อมูลผู้ป่วย (Patient Data)

   – ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วย เช่น ชื่อ, ที่อยู่, เพศ, อายุ

   – ประวัติการรักษาและอาการเจ็บป่วย

   – ผลการตรวจทางการแพทย์ เช่น ค่าคลินิก, รังสี, ห้องปฏิบัติการ

 

  1. ภาพอาการ (Medical Imaging)

   – รูปภาพ X-ray, CT scan, MRI

   – รูปถ่ายทางการแพทย์เช่น รูปถ่ายแสงใต้แดด (Dermatology images)

 

  1. ข้อมูลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ (Laboratory Data)

   – ผลการตรวจเลือด

   – ผลการตรวจปัสสาวะ

   – ผลการตรวจเนื้อเยื่อ (Biopsy)

 

  1. ข้อมูลการสั่งยาและการจัดการยา (Medication Data)

   – ประวัติการจัดสรรยา, ยาที่รับประทาน, การแพทย์สั่งยา

 

  1. ข้อมูลการผ่าตัด (Surgical Data)

   – ประวัติการผ่าตัด

   – รายละเอียดของกระบวนการผ่าตัด

 

  1. ข้อมูลการนัดหมาย (Appointment Data)

   – การนัดหมายกับแพทย์หรือแผนกทางการแพทย์

 

  1. ข้อมูลการวินิจฉัย (Diagnosis Data)

   – การวินิจฉัยโรค

   – รหัส ICD-10 (International Classification of Diseases) สำหรับการรหัสโรค

 

  1. ข้อมูลการติดต่อและข้อมูลเอกสาร (Contact and Document Data)

   – ข้อมูลการติดต่อของผู้ป่วย

   – เอกสารเกี่ยวกับการรักษาและการสนทนากับผู้ป่วย

 

  1. ข้อมูลการเงินและบริหารจัดการ (Financial and Administrative Data)

   – ข้อมูลการเรียกเก็บเงิน

   – ข้อมูลการบริหารจัดการโรงพยาบาล

 

  1. ข้อมูลตรวจสอบความปลอดภัย (Security Audit Data)

    – บันทึกการเข้าถึงและการใช้งานข้อมูลเฉพาะทางการแพทย์

    – ข้อมูลการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบ

 

  1. ข้อมูลแสดงผลรายงาน (Report Data)

    – รายงานผลการรักษาและการวินิจฉัย