การจัดการระบบ User และ Admin ใน Network ของโรงพยาบาล
การจัดการการเข้าถึงของ Admin และ User ในระบบโรงพยาบาลเป็นขั้นตอนสำคัญในการควบคุมความปลอดภัยและการบริหารจัดการข้อมูลที่สำคัญในสถานที่ที่มีข้อมูลที่อ่อนไหวเช่นโรงพยาบาล. ขั้นตอนการจัดการการเข้าถึงนี้มีรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ถูกต้องและการควบคุมการเข้าถึงในโครงสร้างของระบบคอมพิวเตอร์
1. ระบบการตรวจสอบตัวตน
พื่อควบคุมการเข้าถึงของ Admin และ User ระบบควรใช้ระบบการตรวจสอบตัวตน เช่น การใช้รหัสผ่าน ระบบสแกนลายนิ้วมือ หรือการใช้งานบัตรประจำตัว เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้. ตัวอย่างเทคโนโลยีที่นิยมใช้ร่วมกับการตรวจสอบตัวตนได้แก่ Active Directory สำหรับการบริหารจัดการรหัสผ่านและสิทธิ์การเข้าถึง ระบบบันทึกลายนิ้วมือ (fingerprint scanner) หรือการใช้งานบัตรประจำตัวระยะไกลสำหรับการเข้าถึงแบบพร้อมเสียบบัตร (contactless access)
แนวทางการตรวจสอบตัวตน:
การใช้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน: นี่เป็นวิธีการตรวจสอบตัวตนที่เป็นที่นิยมสำหรับผู้ใช้ทั่วไปในระบบ Clinic Network ของโรงพยาบาล ผู้ดูแลระบบและผู้ใช้ทั่วไปจะมีชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำกันเพื่อเข้าถึงระบบ รหัสผ่านควรมีความแข็งแกร่งและควรเปลี่ยนเป็นระยะๆ อีกทั้งสำหรับความปลอดภัยเพิ่มเติม โรงพยาบาลสามารถใช้นโยบายเช่นการตรวจสอบแบบสองขั้นตอน (2FA) หรือการตรวจสอบแบบหลายขั้นตอน (MFA) ซึ่งผู้ใช้จำเป็นต้องให้ข้อมูลอีกช่องที่สอง เช่น รหัสหนึ่งครั้งที่ส่งไปยังอุปกรณ์มือถือของพวกเขานอกเหนือจากรหัสผ่านของพวกเขา
การตรวจสอบตัวตนด้วยวิธีชี้ลายนิ้วมือ: โรงพยาบาลสามารถใช้วิธีการตรวจสอบตัวตนด้วยวิธีชี้ลายนิ้วมือ เช่น การสแกนลายนิ้วมือหรือการสแกนลายตา ผู้ดูแลระบบและผู้ใช้สามารถลงทะเบียนข้อมูลชี้ลายนิ้วมือของพวกเขาในระบบ และนำมาใช้ในการตรวจสอบตัวตน ตัวอย่างของการใช้งานทางคลินิกคือการลงทะเบียนชี้ลายนิ้วมือของแพทย์หรือพยาบาลเพื่อเข้าถึงระบบคลินิก
การใช้งานบัตรประจำตัว: การใช้งานบัตรประจำตัวระยะไกลสำหรับการเข้าถึงแบบพร้อมเสียบบัตร (contactless access) ก็เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม ผู้ใช้สามารถใช้บัตรประจำตัวหรือบัตรคีย์การ์ดเพื่อเข้าถึงระบบ โดยอุปกรณ์อ่านบัตรจะอ่านข้อมูลบนบัตรและตรวจสอบตัวตนกับระบบ
การใช้เทคโนโลยีและวิธีการตรวจสอบตัวตนที่เหมาะสมสำหรับโรงพยาบาลจะช่วยให้มั่นใจได้ในความปลอดภัยและความถูกต้องของการเข้าถึงข้อมูลในระบบ Clinic Network และช่วยป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ถูกต้องหรือการละเมิดความปลอดภัยในระบบ
2. การกำหนดสิทธิ์และหน้าที่
การกำหนดสิทธิ์และหน้าที่ในระบบโรงพยาบาลเป็นขั้นตอนสำคัญในการควบคุมการเข้าถึงของ Admin และ User ในโรงพยาบาล ระบบควรมีการกำหนดสิทธิ์และหน้าที่ของบุคลากรต่าง ๆ ในโรงพยาบาลอย่างชัดเจนและเหมาะสมเพื่อให้มีการควบคุมและความชัดเจนในการเข้าถึงแต่ละส่วนของระบบ Clinic Network โดยตัวอย่างและขั้นตอนการทำนี้มีดังนี้:
การกำหนดบทบาท (Roles)
หลายๆ โรงพยาบาลใช้ระบบกำหนดบทบาท (Roles) เพื่อกำหนดสิทธิ์และหน้าที่ของบุคลากรในโรงพยาบาล เช่น บทบาทของแพทย์, พยาบาล, และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ แต่ละบทบาทจะมีสิทธิ์เข้าถึงและแก้ไขข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบทบาทนั้น ๆ เท่านั้น
ตัวอย่าง: แพทย์สามารถเข้าถึงและแก้ไขประวัติการรักษาของผู้ป่วยที่เขารับผิดชอบ แต่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ป่วยที่ไม่ได้รับมอบหมาย
การใช้ระบบการตรวจสอบตัวตน
ในการที่จะควบคุมการเข้าถึงในระบบ Clinic Network ระบบสามารถใช้ระบบการตรวจสอบตัวตน เช่น การใช้รหัสผ่าน, ระบบสแกนลายนิ้วมือ, หรือการใช้งานบัตรประจำตัว เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้
ตัวอย่าง: พยาบาลจะต้องใช้รหัสผ่านเพื่อเข้าถึงระบบเมื่อต้องบันทึกข้อมูลของผู้ป่วยหรือรายงานสถานะของผู้ป่วย. นอกจากนี้ Admin หรือผู้ควบคุมระบบสามารถเข้าถึงระบบด้วยการสแกนลายนิ้วมือหรือการใช้งานบัตรประจำตัว
การตรวจสอบและการบันทึกการเข้าถึง
ระบบควรมีการตรวจสอบและบันทึกการเข้าถึงของ Admin และ User เพื่อติดตามและรายงานการใช้งานของผู้ใช้ การบันทึกควรรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับวันที่และเวลาการเข้าถึง, การดูข้อมูล, และการแก้ไขข้อมูล.
ตัวอย่าง: ระบบบันทึกข้อมูลว่าแพทย์ A เข้าถึงประวัติการรักษาของผู้ป่วยชื่อ XYZ
ในโรงพยาบาลทุกแห่งนั้น การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง (user authentication) เป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในเครือข่าย ในการเข้าถึงระบบข้อมูลที่เชื่อมต่อกับโรงพยาบาล ผู้ดูแลระบบและผู้ใช้ทั่วไปจำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบและบันทึกข้อมูลการเข้าถึง การบันทึกควรรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับวันที่และเวลาการเข้าถึง การดูข้อมูล และการแก้ไขข้อมูล เพื่อให้สามารถติดตามและรายงานการใช้งานของผู้ใช้ได้อย่างถูกต้องและตรงเวลา