การเชื่อมต่อระบบ Network ด้วย Cisco Catalyst และการจัดการความปลอดภัยด้วย Fortinet

การเชื่อมต่อระบบเครือข่าย (Network) เป็นกระบวนการที่สำคัญในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนข้อมูลภายในองค์กรหรือระหว่างองค์กร การใช้ Cisco Catalyst ในการสร้างและจัดการเครือข่าย และการใช้ Fortinet ในการจัดการความปลอดภัยของเครือข่ายเป็นสองส่วนสำคัญที่ช่วยให้ระบบเครือข่ายมีความมั่นคงและประสิทธิภาพสูง

การเชื่อมต่อระบบเครือข่ายด้วย Cisco Catalyst

Cisco Catalyst เป็นชุดของสวิตช์ (Switch) ที่มีคุณภาพสูงและเป็นที่นิยมในการใช้งานในระบบเครือข่ายขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เนื่องจากมีความสามารถในการจัดการการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ Cisco Catalyst ยังมีคุณสมบัติในการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Wi-Fi 6 และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่มีความปลอดภัยสูง

การตั้งค่า VLAN บน Cisco Catalyst

การสร้าง VLAN (Virtual Local Area Network) เป็นเทคนิคที่ใช้ในการแบ่งส่วนเครือข่ายออกเป็นหลายๆ โดเมน โดยแต่ละโดเมนสามารถมีการจัดการและการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างอิสระ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดการรบกวนของการรับส่งข้อมูลที่ไม่จำเป็น

1. การสร้าง VLAN: เริ่มต้นด้วยการเข้าสู่โหมดการกำหนดค่า (Configure Terminal) บน Cisco Catalyst จากนั้นใช้คำสั่ง `vlan` เพื่อสร้าง VLAN ใหม่ ตัวอย่างเช่น `vlan 2` และตั้งชื่อให้กับ VLAN นั้น เช่น `name Admin`[1].

2. การกำหนด Port ให้กับ VLAN: หลังจากสร้าง VLAN แล้ว จะต้องกำหนด Port ที่จะใช้กับ VLAN นั้น โดยใช้คำสั่ง `interface` และตั้งค่า `switchport mode access` เพื่อให้ Port นั้นเป็น Access Port ที่เชื่อมต่อกับ VLAN ที่กำหนดไว้[1].

การจัดการความปลอดภัยด้วย Fortinet

Fortinet เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง FortiGate ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักในการจัดการความปลอดภัยของเครือข่าย FortiGate มีคุณสมบัติในการตรวจสอบและควบคุมการรับส่งข้อมูลที่เข้าและออกจากเครือข่าย รวมถึงการป้องกันการโจมตีจากภายนอก

คุณสมบัติของ FortiGate

1. การตรวจสอบและควบคุมการรับส่งข้อมูล: FortiGate สามารถตรวจสอบและควบคุมการรับส่งข้อมูลที่ผ่านเครือข่ายได้อย่างละเอียด โดยสามารถตั้งค่าให้ตรวจสอบการเข้าถึงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเฉพาะได้

2. การป้องกันการโจมตี: FortiGate มีระบบป้องกันการโจมตีแบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถตรวจจับและป้องกันการโจมตีจากมัลแวร์หรือการโจมตีแบบ DDoS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การรักษาความปลอดภัยของการเชื่อมต่อแบบไร้สาย: FortiGate ยังมีคุณสมบัติในการรักษาความปลอดภัยของการเชื่อมต่อแบบไร้สาย โดยสามารถตรวจสอบและควบคุมการเข้าถึงเครือข่ายไร้สายได้อย่างเข้มงวด

การรวม Cisco Catalyst และ Fortinet ในการสร้างระบบเครือข่ายที่มีความปลอดภัย

การรวม Cisco Catalyst และ Fortinet เข้าด้วยกันสามารถช่วยให้ระบบเครือข่ายมีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูง โดย Cisco Catalyst จะรับผิดชอบในการจัดการการรับส่งข้อมูลภายในเครือข่าย ในขณะที่ FortiGate จะรับผิดชอบในการป้องกันการโจมตีและรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย

1. การออกแบบโครงสร้างเครือข่าย: การออกแบบโครงสร้างเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยต้องคำนึงถึงการวางตำแหน่งของอุปกรณ์ Cisco Catalyst และ FortiGate โดยทั่วไปแล้ว FortiGate จะถูกวางไว้ที่จุดเข้าออกของเครือข่ายเพื่อตรวจสอบและควบคุมการรับส่งข้อมูล

2. การกำหนดค่าความปลอดภัย: การกำหนดค่าความปลอดภัยบน FortiGate ต้องคำนึงถึงการสร้างนโยบายการเข้าถึงและการตรวจสอบการรับส่งข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าเครือข่ายมีความปลอดภัยสูงสุด

สรุป

การเชื่อมต่อระบบเครือข่ายด้วย Cisco Catalyst และการจัดการความปลอดภัยด้วย Fortinet เป็นสองส่วนสำคัญที่ช่วยให้ระบบเครือข่ายมีความมั่นคงและประสิทธิภาพสูง การใช้ Cisco Catalyst ในการสร้างโครงสร้างเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ และการนำ FortiGate มาใช้ในการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย จะช่วยให้องค์กรสามารถลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์และเพิ่มความไว้วางใจในการใช้งานเครือข่าย

References:
1. การ Configuration VLAN on switch Cisco เบื้องต้น ตอนที่ 1 – Jodoi [1]
2. Journal of Communication Arts – ThaiJO [2]
3. เรียนรู้ระบบเครือข่ายใน 6 ชม. กับอุปกรณ์ Cisco [3]
4. คำแนะนำสำหรับผู้นิพนธ์ – ThaiJo [4]

สนใจสินค้า คลิก https://2beshop.com/cisco.html

https://www.2beshop.com/FortiGate.html

https://www.2beshop.com/Fortinet.html

สนใจสินค้าเพิ่มเติมติดต่อ 2BeShop โทร 02-1186767