การแบ่ง Clinical Network ในโรงพยาบาล (Part 2)

การแบ่งส่วนเครือข่ายของแผนกคลินิกในโรงพยาบาลเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของระบบเครือข่าย โดยได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบและรอบด้าน การแบ่งส่วนนี้เป็นเครือข่ายตามแผนผัง clinic สามารถช่วยให้การทำงานของแต่ละแผนกดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การแพร่กระจายข้อมูลที่ไม่เหมาะสมหรือข้อมูลสำคัญที่สูญหายได้ ดังนั้น การคำนึงถึงความปลอดภัยเมื่อทำการแบ่งส่วน network ในแต่ละแผนกคลินิกจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง

ความต้องการในด้านความปลอดภัย

การระบุว่าคุณจะใช้มาตรการความปลอดภัยอย่างไร เช่น การติดตั้ง Firewall, IDS, IPS, การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption), การสร้าง Virtual Private Network (VPN) เป็นต้น

เราควรใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสที่มีความปลอดภัยสูงเพื่อปกป้องข้อมูลรายละเอียดผู้ป่วย นอกจากนี้เรามีการตรวจสอบความปลอดภัยของเครือข่ายอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจจับและป้องกันการบุกรุกที่อาจเกิดขึ้น ในทางเดียวกัน เรามีการกำหนดนโยบายและขั้นตอนการดูแลรักษาเครือข่ายเพื่อให้คงความปลอดภัยได้ในระยะยาว

แนวทางการตรวจสอบความปลอดภัยในเครือข่ายคลินิกของโรงพยาบาลมีหลายอย่าง เพื่อให้ได้รับการให้บริการที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงสุด ความปลอดภัยของข้อมูลการรักษาที่เก็บไว้ในระบบคลินิกเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ต่อไปนี้เรามีรายการของการตรวจสอบความปลอดภัยที่สามารถนำมาใช้ในเครือข่ายคลินิก:

1. การตรวจสอบ Firewall:

ตรวจสอบการกำหนดกฎ (Rules) ใน Firewall เพื่อให้แน่ใจว่ามีการบล็อกการเข้าถึงที่ไม่เกี่ยวข้องและมีความคล่องตัวสำหรับการเชื่อมต่อที่อนุญาต

เพื่อให้การทำงานของระบบ Clinic Network Segmentation ในโรงพยาบาลมีความมั่นคงและปลอดภัยที่สูง จะมีการตรวจสอบและกำหนดกฎ (Rules) ใน Firewall อย่างเคร่งครัดและระดับสูง เพื่อควบคุมการเข้าถึงข้อมูลและการเชื่อมต่อไปยังเครือข่ายโรงพยาบาล กระบวนการนี้จะแน่ใจว่ามีการบล็อกการเข้าถึงที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นภัย และพร้อมจัดทำกฎที่คล่องตัวสำหรับการเชื่อมต่อที่ได้รับการอนุญาต เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นและเหมาะสมตามบทบาทและความจำเป็น การควบคุมและการตรวจสอบระบบ Firewall เป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและการดูแลข้อมูลสำคัญที่อยู่ในโรงพยาบาล การปฏิบัติดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพในสถานที่ที่ความเชื่อถือและความปลอดภัยมีความสำคัญอย่างมากเช่นโรงพยาบาล ซึ่งการทำงานนี้เป็นการป้องกันอย่างเหนือกว่าการรักษาความปลอดภัยของระบบเครือข่ายและข้อมูลของผู้ป่วย แต่ยังเป็นการประกันว่าความสามารถในการให้บริการทางการแพทย์ในโรงพยาบาลไม่มีการติดขัดหรือหยุดชะงักในกรณีฉุกเฉินและการรักษาผู้ป่วย

2. การตรวจสอบการเข้ารหัสข้อมูล:

ตรวจสอบว่าข้อมูลที่ถูกส่งผ่านเครือข่ายได้รับการเข้ารหัส (Encryption) เพื่อป้องกันการอ่านข้อมูลขณะที่ถูกส่งผ่านเครือข่าย

ข้อมูลที่ถูกส่งผ่านเครือข่ายจำเป็นต้องได้รับการเข้ารหัส (Encryption) เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลย การใช้การเข้ารหัสข้อมูลที่ถูกส่งผ่านเครือข่ายมีเป้าหมายหลักในการป้องกันการอ่านข้อมูลขณะที่ข้อมูลกำลังถูกส่งผ่านเครือข่าย หากข้อมูลที่ส่งผ่านเครือข่ายไม่ได้รับการเข้ารหัส อาจทำให้ข้อมูลนั้นเป็นเป้าหมายของผู้ไม่ประสงค์ดีที่อาจพยายามถอดรหัสและเข้าถึงข้อมูลที่อยู่ในระบบ การใช้การเข้ารหัสเป็นมาตรการที่สำคัญในการรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลทางการแพทย์ในระบบคลินิกของโรงพยาบาล โดยการเข้ารหัสนี้จะทำให้ข้อมูลมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในระหว่างการส่งผ่านเครือข่ายและเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความลับและความความเชื่อถือของผู้รับบริการแพทย์ในโรงพยาบาลนั้นๆ ดังนั้น การตรวจสอบและรักษามาตรฐานการเข้ารหัสเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ระบบคลินิกในโรงพยาบาลมีการรับรองความปลอดภัยที่เหมาะสมและสามารถป้องกันการละเมิดความลับของข้อมูลแพทย์ได้อย่างมั่นคง

3. การตรวจสอบการสร้าง Virtual Private Network (VPN):

ตรวจสอบการใช้ VPN เพื่อสร้างช่องทางการเชื่อมต่อปลอดภัยระหว่างอุปกรณ์ที่อยู่นอกเครือข่ายและเครือข่ายคลินิก

การตรวจสอบการใช้ VPN เพื่อสร้างช่องทางการเชื่อมต่อปลอดภัยระหว่างอุปกรณ์ที่อยู่นอกเครือข่ายและเครือข่ายคลินิกเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญในการวางแผนและดำเนินการด้านความปลอดภัยของโรงพยาบาล. การใช้ VPN (Virtual Private Network) ช่วยให้เครือข่ายคลินิกสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ต้องการอย่างปลอดภัยผ่านอินเทอร์เน็ตหรือเครือข่ายสาธารณะโดยไม่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของข้อมูลที่ถูกส่งหรือรับ

นอกจากนี้ VPN ยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวและสะดวกในการทำงานระหว่างบุคลากรที่ต้องการเข้าถึงระบบคลินิกจากที่ไกล ที่สำคัญคือการตรวจสอบและปรับแต่งการใช้ VPN เพื่อให้มีความเข้ากันได้กับความต้องการและนโยบายความปลอดภัยของโรงพยาบาล โดยที่ยังรักษาความปลอดภัยของข้อมูลคลินิกและสิทธิ์และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานที่เชื่อมต่อผ่านเครือข่าย VPN อย่างเหมาะสมและมั่นคง การบริหารจัดการระบบ VPN ให้มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การเชื่อมต่อและการทำงานในโรงพยาบาลเป็นไปอย่างเรียบร้อยและปลอดภัยตลอดเวลา

4. การตรวจสอบการสร้างเข้ารหัสเครือข่ายไร้สาย (Wireless Network):

 การตรวจสอบการสร้างเข้ารหัสเครือข่ายไร้สายเป็นขั้นตอนสำคัญในการปรับปรุงความปลอดภัยของโรงพยาบาล การใช้การเข้ารหัสที่แข็งแกร่งและปลอดภัยในเครือข่ายไร้สายช่วยป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ถูกต้องจากบุคคลที่ไม่มีสิทธิ์ นี่เป็นการป้องกันไม่ให้ข้อมูลที่สำคัญเหล่านั้นถูกเข้าถึงหรือโจมตีจากภายนอก การใช้การเข้ารหัสที่มีมาตรฐานสูงช่วยให้ข้อมูลที่ถูกส่งผ่านเครือข่ายไร้สายไม่สามารถถูกอ่านหรือเข้าใจได้โดยง่าย นอกจากนี้ การตรวจสอบการสร้างเข้ารหัสยังเป็นวิธีในการตรวจจับความผิดปกติและการรับรองว่าค่าการเข้ารหัสที่ใช้งานอยู่มีความแข็งแกร่งเสมอ และไม่มีช่องโหว่ที่อาจถูกการโจมตี การรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายไร้สายเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในโรงพยาบาลเนื่องจากจะมีการส่งข้อมูลที่อยู่ในระดับความลับสูง การตรวจสอบการสร้างเข้ารหัสเครือข่ายไร้สายเป็นส่วนสำคัญในการเตรียมความพร้อมและปกป้องความปลอดภัยของข้อมูลทางการแพทย์ในโรงพยาบาล

อ่านต่อ…