บทนำ

ในยุคที่ “การทำงานทุกที่ทุกเวลา” กลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับนักธุรกิจและองค์กรหลายแห่ง การเลือกแท็บเล็ตให้เหมาะสมกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจพลิกโฉมประสิทธิภาพการทำงานของคุณได้ “Surface Pro” และ “iPad Pro” คือสองสุดยอดแท็บเล็ตที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มมืออาชีพ ด้วยคำถามที่หลายคนสงสัยว่า แท็บเล็ตไหนดีกว่าสำหรับนักธุรกิจ? วันนี้ 2beshop.com จะมาเจาะลึกทุกประเด็นสำคัญ พร้อมเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างคุ้มค่าที่สุด


เปรียบเทียบสเปกและดีไซน์โดยรวม

  • Surface Pro 12/13 นิ้ว: ตัวเครื่องบาง น้ำหนักประมาณ 880 กรัม (รวมคีย์บอร์ดเล็กน้อย) ดีไซน์พรีเมียม พร้อมขาตั้งในตัว ใช้งานได้ทั้งแนวนอนและตั้งวางเป็นแล็ปท็อป
  • iPad Pro 11/13 นิ้ว: น้ำหนักราว 580-680 กรัม ดีไซน์บางเฉียบ มีตัวเลือกสีสันหลากหลายและมีคีย์บอร์ดเสริมแบบ Magnetic

จุดเด่น:

  • Surface Pro ขึ้นชื่อเรื่องการเป็น “Tablet ที่ใช้งานแทนแล็ปท็อป” ได้สมบูรณ์แบบ ส่วน iPad Pro เหมาะกับการถือใช้งานในโหมด tablet และเน้นความเบาสบาย[1][2].

ประสิทธิภาพการทำงาน (Performance)

  • Surface Pro 12/13 นิ้ว: ชิป Snapdragon X Plus/X Elite, RAM 16GB (อัปเกรดได้), SSD อัปเกรดได้, รัน Windows 11 เต็มรูปแบบ
  • iPad Pro 11/13 นิ้ว: Apple M4 (แรงเท่าชิปคอมพิวเตอร์), RAM สูงสุด 16GB, Storage Soldered, รัน iPadOS

ข้อดี Surface Pro

  • Multitasking แอพสำนักงานได้โดดเด่น RAM มากกว่า
  • ทำงานกับไฟล์ Office, PDF และระบบคลาวด์องค์กรได้ครบเครื่อง
  • สามารถติดตั้ง Windows Legacy Apps

ข้อดี iPad Pro

  • ประสิทธิภาพการประมวลผลสูงสุด (Apple M4)
  • เหมาะกับงานกราฟิก, จดบันทึก, ถ่ายภาพ/วิดีโอ, Video/Photo Editing เบาๆ
  • ระบบ iPadOS ลื่นไหล, เสถียร, รองรับ Apple Ecosystem[1][2][3].

หมายเหตุ: ชิป Snapdragon X Elite (Surface Pro 13” OLED) ในการทดสอบ Multi-core เอาชนะ iPad Pro M4 ได้ในบางงาน แต่โดยรวม “เหมาะกับกลุ่มธุรกิจมากกว่า”[1].


ระบบปฏิบัติการ: Windows 11 vs iPadOS

ด้านการใช้งานธุรกิจ Surface Pro (Windows 11) iPad Pro (iPadOS)
รันโปรแกรม Office เต็มรูปแบบ ได้เต็ม 100% ได้ แต่ยังมีข้อจำกัดบางฟีเจอร์
Multitasking (Multi-window) มีความยืดหยุ่นสูง ทำได้ดี แต่ยังไม่สมบูรณ์เท่า Windows
File Management Drag & Drop, ใช้งานคล้าย PC ได้ แต่ยังอยู่ใน Sandbox system
เชื่อมต่อหน้าจอเสริม สูงสุด 3 จอ (Windows 11 Pro) ได้ 1 จอ (ผ่าน Stage Manager)
ซอฟต์แวร์องค์กร/เฉพาะทาง รองรับโปรแกรม Windows เกือบทั้งหมด ต้องมีแอปเฉพาะจาก App Store

สรุป: สำหรับนักธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นและความครบครันของซอฟต์แวร์ Surface Pro มีความได้เปรียบมากกว่า แต่ iPad Pro เหมาะกับงานที่อยู่ใน Ecosystem ของ Apple หรือทำงาน Mobility สูง[2][3].


จอแสดงผล, อุปกรณ์เสริม และประสบการณ์อินพุต

  • Surface Pro:
    • จอ LCD 12” 90Hz/13” 120Hz, มี OLED เป็นตัวเลือก, ความสว่าง ~400 nits
    • ปากกา Surface Slim Pen 2 รองรับ Haptic Feedback, คนที่เขียน/จดบันทึกจริงจังให้สัมผัสใกล้เคียงกระดาษ
    • คีย์บอร์ดมีไฟ Backlit, สามารถปรับหมุนได้, ราคาถูกกว่า Magic Keyboard
  • iPad Pro:
    • จอ OLED 120Hz ทุกรุ่น, ความละเอียดสูงมาก, ความสว่างสูงสุด 1600 nits (HDR)
    • Apple Pencil Pro ลื่นไหล เที่ยงตรง เหมาะงานศิลป์
    • Magic Keyboard แยกขาย ราคาสูง ไม่มี backlight

ข้อสังเกต:

  • iPad Pro เหมาะกับ Creative, Content Creator, งานที่เน้นสีสันและความเนียนในการสัมผัส
  • Surface Pro เหมาะกับงานธุรกิจ, Multitasking, Pen Experience ที่ใกล้เคียงโน้ตบุ๊ก

อายุการใช้งานแบตเตอรี่และความคล่องตัว

  • Surface Pro: ใช้งานทั่วไปได้ 12–16 ชั่วโมง (ขึ้นกับรูปแบบการใช้ เช่น ประชุมออนไลน์, ส่งอีเมล ฯลฯ)[2].
  • iPad Pro: เฉลี่ย 10 ชั่วโมงการท่องเว็บ, หรือ 9 ชั่วโมงแบบ 5G (เหมาะกับพกพาระยะไกล)[2].

สรุป: ทั้งสองรุ่นรองรับงานทั้งวัน แต่ Surface Pro ได้เปรียบในงานสำนักงานที่เปิดหลายแอพและใช้งานข้ามอุปกรณ์บ่อย


ราคา ความคุ้มค่า และการอัปเกรดในอนาคต

  • Surface Pro 12” เริ่มต้น 799 USD (16GB/256GB) → อัปเกรด RAM/SSD ได้[2][4].
  • iPad Pro 11” เริ่มต้น 999 USD, iPad Pro 13” OLED เริ่มที่ 1,299 USD → Storage/RAM อัปเกรดไม่ได้

อุปกรณ์เสริม

  • คีย์บอร์ด+ปากกา Surface Pro เลือกได้ หลากรุ่น ราคาประหยัดกว่า
  • iPad Pro (Magic Keyboard/Apple Pencil Pro) รวมแล้วราคาสูงและเพิ่มน้ำหนัก

บทสรุป และ Call-to-Action

หากคุณคือนักธุรกิจที่ต้องการแท็บเล็ตที่มีความยืดหยุ่นเหมือนโน้ตบุ๊ก, รันโปรแกรมธุรกิจ, อัปเกรดหน่วยความจำในอนาคต, หรือทำงาน Multitasking ระดับสูง — Surface Pro คือคำตอบที่คุ้มค่ากว่า

แต่ถ้าคุณเป็นสายสร้างสรรค์, ช่างภาพ, ชอบความบางเบา, หรือใช้ Apple Ecosystem อย่างเต็มรูปแบบ — iPad Pro จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

พร้อมหรือยังที่จะเลือกอุปกรณ์คู่ใจสำหรับธุรกิจของคุณ?
ติดต่อ 2beshop.com โทร. 02-1186767 เพื่อรับคำปรึกษา/ขอใบเสนอราคาหรือสอบถามโปรโมชั่น Surface Pro และ iPad Pro รุ่นใหม่ล่าสุด!

แชร์บทความนี้ หากคุณคิดว่าเป็นประโยชน์กับเพื่อนหรือองค์กรของคุณ


#Reference sources
[1] YouTube: 2025 iPad Pro vs Surface Pro | Make it Simple
[2] WindowsForum.com: Surface Pro 12-inch vs. iPad Air M3
[3] WindowsCentral.com: Microsoft Surface Pro 12-inch vs. Apple iPad Air M3
[4] WindowsCentral.com: Surface Pro 12-inch Competes with iPad Air

By admin